หนึ่งในทรัพยากรที่มีจำกัดและมีค่ามากที่สุดคือ เวลา ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ถึงแม้เวลาในแต่ละวันจะเท่าเดิม แต่กลับรู้สึกว่าไม่เคยเพียงพอ เพราะมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการดูแลครอบครัว จนบางครั้งต้องแบ่งเวลาที่ควรจะใช้เพื่อการพักผ่อนไปทำสิ่งเหล่านั้นแทน

             รู้ไหม? ว่าการทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน หรือการทำงานตลอดเวลา รวมถึงการทำงานแบบไม่มีเวลากำหนดที่ชัดเจน ไม่เพียงแต่จะบั่นทอนสุขภาพเท่านั้น แต่ทำให้คุณภาพงานลดน้อยลง และยังส่งผลให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและหมดกำลังใจในการทำงานได้ง่ายขึ้น

6 วิธีการบริหารจัดการเวลาทำงาน สร้างสมดุลการใช้ชีวิต

             เพื่อช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาในชีวิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนำมาซึ่งการใช้ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวแบบ Work Life Balance เรามีเทคนิคการบริหารจัดการเวลาที่ได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจมาแนะนำกัน ตามมาดูเลย

ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวแบบ Work Life Balance

             Work Life Balance คือ แนวคิดเกี่ยวกับการปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว ด้วยการแบ่งเวลาให้กับทั้งสองส่วนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อลดผลกระทบจากการทำงานหนักเกินไป จนไม่มีเวลาพักผ่อน หรือไม่ได้ให้เวลากับตนเองเท่าที่ควร ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์สำหรับคนยุคใหม่ ทั้งที่ทำงานประจำ อาชีพอิสระ และงานพาร์ตไทม์เป็นอย่างยิ่ง

             แนวคิด Work Life Balance ส่งผลดีต่อคนทำงานในหลายประการด้วยกัน โดยสามารถนำมาแจกแจงให้รู้กันได้ ดังนี้

• การบริหารจัดการเวลาในการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เรามีเวลาปล่อยวางจากความเครียดและความกดดันจากหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ และได้ใช้เวลาแสวงหาหรือทำในสิ่งที่ตนเองจะรู้สึกดีและผ่อนคลาย ช่วยให้มีความสุขกับชีวิตได้
• เมื่อร่างกายได้มีเวลาพักผ่อนอย่างพอเหมาะ ก็จะไม่เกิดความอ่อนล้าอ่อนเพลีย เมื่อกลับมาทำงานจะสามารถจดจ่ออยู่กับงานได้ง่าย และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
• การบริหารจัดการเวลาในชีวิตที่ดี ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายได้พักผ่อน แต่ยังทำให้สมองได้ผ่อนคลาย เมื่อถึงเวลาทำงาน สมองก็จะปลอดโปร่ง ช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดไอเดียงานใหม่ ๆ ได้อย่างไหลลื่นอีกด้วย    
• ข้อดีประการสำคัญของการบริหารจัดการเวลาในการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว คือลดความเสี่ยงการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) ช่วยเพิ่มความสุขและกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น

เทคนิคการบริหารเวลา จะทำงานแบบไหน ก็ทำตามได้

             ไม่ว่าคุณจะทำงานประจำที่มีเวลาการทำงานตายตัว หรือทำงานฟรีแลนซ์ ทำงานพาร์ตไทม์ ที่มีเวลางานไม่แน่นอน ก็สามารถบริหารจัดการเวลางานและเวลาการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยเทคนิคการบริหารเวลาต่อไปนี้

             ตั้งเป้าหมาย และวางแผนก่อนเริ่มทำ

             ในการจะบริหารจัดการเวลาทำงานให้มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องตั้งเป้าหมายและวางแผนก่อนเริ่มทำงาน โดยต้องกำหนดรายการของงานที่ทำในวันนั้นว่ามีจำนวนกี่งาน ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีระบบ และครบถ้วนรัดกุมมากยิ่งขึ้น

             จัดลำดับความสำคัญอย่างฉลาด

             การจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และบริหารจัดการเวลาในการทำงานได้ โดยสามารถแบ่งออกเป็น

• งานที่เร่งด่วน ควรรีบทำก่อน ในช่วงที่สมองยังปลอดโปร่ง เพื่อที่จะได้ทำงานออกมาให้ดีที่สุด
• งานที่สำคัญ ควรดำเนินการหลังจากที่งานเร่งด่วนต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เหลือในการจัดการงานเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ และมีคุณภาพมากที่สุด

             กำหนดระยะเวลาทำงาน

             การกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการเวลาในการทำงาน โดยเราต้องกำหนดว่าแต่ละงานจะใช้เวลาทำประมาณเท่าไร เพื่อให้เราใช้เวลาที่ได้กำหนดไว้นั้น โฟกัสกับงานที่ต้องทำอย่างเต็มที่ ช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นในการทำงาน เพื่อให้งานเสร็จทันตามเวลา 

             แต่การกำหนดเวลาต้องอยู่บนพื้นฐานที่เป็นไปได้ ไม่กดดันตนเองจนเกินไป และเผื่อเวลาไว้สำหรับการแก้ไขและตรวจทานงานให้เรียบร้อยด้วยเช่นกัน  

             หาเวลาพักเบรก

             หากในแต่ละวันมีงานที่ต้องทำอยู่หลายงาน ควรแบ่งช่องว่างระหว่างแต่ละงานให้เป็นช่วงเวลาพักผ่อน ดื่มชา กาแฟ หรือเดินยืดเส้นสาย สักประมาณ 10 นาที เพื่อผ่อนคลายความอ่อนล้าและความตึงเครียดบ้าง เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายกลับมาสดชื่น สมองปลอดโปร่งขึ้นอีกครั้ง

             ใช้เทคโนโลยีช่วยบริหาร

             ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยในการบริหารจัดการเวลาให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันสำหรับการวางแผนการทำงาน แอปพลิเคชันทำ Check List หรือ To-Do List ต่าง ๆ รวมถึงแอปพลิเคชันปฏิทิน ที่คอยแจ้งเตือนกำหนดการงานต่าง ๆ อีกด้วย

             จัดสรรช่วงเวลาสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกาย

             เมื่อบริหารเวลาในการทำงานได้อย่างลงตัวแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะจัดสรรเวลาสำหรับทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่ช่วยคลายเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ รวมถึงแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย เพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และส่งเสริมสุขภาพจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสนั่นเอง

             ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการบริหารเวลา เพื่อการใช้ชีวิตแบบ  Work Life Balance ที่เราได้นำมาบอกกัน และสำหรับใครที่กำลังมองหางานดี ๆ และมีเวลาสำหรับการใช้ชีวิต มาค้นหาตำแหน่งงานที่ชอบ ในบริษัทที่ใช่ ทั้งงานประจำ งานฟรีแลนซ์ หรือหางานพาร์ตไทม์ ที่ได้หยุดเสาร์ อาทิตย์กับ JOBTOPGUN ที่ได้รวบรวมงานบริษัทดัง สังคมดี สวัสดิการที่เหมาะสมมาไว้ที่นี่แล้ว พร้อมเพิ่มโอกาสได้งานด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ พร้อมนำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร และยังมีรีวิวบริษัท ที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทตามความจริง ดูแลให้คุณได้งานที่ดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android